ผ้าไม่ทอทนความเย็นเป็นผลิตภัณฑ์ผ้าไม่ทอชนิดหนึ่งที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในภาคเกษตรกรรม เป็นวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยุคใหม่ มีจุดเด่นหลายประการ เช่น ความแข็งแรงทนทาน ระบายอากาศและกันน้ำได้ดี เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีความยืดหยุ่น ปลอดสารพิษและไม่มีกลิ่น และมีราคาถูก เป็นวัสดุที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยุคใหม่ มีคุณสมบัติกันน้ำ ระบายอากาศได้ดี มีความยืดหยุ่น ไม่ติดไฟ ปลอดสารพิษและไม่ระคายเคือง และมีสีสันสดใส
หากนำผ้าสปันบอนด์กันความเย็นไปวางไว้กลางแจ้งและย่อยสลายตามธรรมชาติ จะมีอายุการใช้งานยาวนานที่สุดเพียง 90 วัน หากวางไว้ในร่ม ผ้าจะย่อยสลายภายใน 5 ปี เมื่อถูกเผา ผ้าจะไม่เป็นพิษ ไม่มีกลิ่น และไม่มีสารตกค้าง ไม่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมและส่งผลดีต่อระบบนิเวศ
กันลม ฉนวนกันความร้อน ให้ความชุ่มชื้น ระบายอากาศได้ ดูแลรักษาง่ายระหว่างการก่อสร้าง สวยงามและใช้งานได้จริง และนำกลับมาใช้ใหม่ได้
มีประสิทธิภาพการป้องกันความร้อนที่ดี น้ำหนักเบา ใช้งานง่าย และทนทาน
1. ผ้าไม่ทอที่ทนความเย็นสามารถปกป้องต้นกล้าที่เพิ่งปลูกจากการจำศีลและความหนาวเย็น และเหมาะสำหรับใช้คลุมแนวกันลม รั้วพุ่มไม้ ต้นไม้หลากสี และต้นไม้ชนิดอื่นๆ
2. การใช้วัสดุปูพื้น (ป้องกันฝุ่นละออง) และป้องกันความลาดชันบนทางหลวงในพื้นที่ก่อสร้างที่เปิดโล่ง
3. ผ้าไม่ทอที่ทนความเย็นยังใช้ในการห่อต้นไม้ ย้ายปลูกไม้พุ่มดอก และคลุมดินและฟิล์มพลาสติก
แสงและความร้อนเป็นสาเหตุหลักที่ส่งผลต่ออายุการใช้งานของผ้าทนความเย็น แล้วเราจะทำอย่างไรเพื่อยืดอายุการใช้งานของผ้าทนความเย็นได้?
วิธียืดอายุการใช้งานของผ้าทนความเย็น
1. หลังจากใช้ผ้ากันความเย็นแล้ว ควรเก็บให้ทันเวลาเพื่อหลีกเลี่ยงการถูกแสงแดดเป็นเวลานานในสภาพอากาศเปิด
2. เมื่อเก็บผ้าทนความเย็น ควรหลีกเลี่ยงการขีดข่วนกิ่งไม้เนื่องจากความเย็น
3. ห้ามเก็บผ้าเย็นในวันที่ฝนตกหรือมีน้ำค้าง คุณสามารถเก็บผ้าเย็นได้หลังจากที่น้ำค้างหายไปแล้ว หรือหากมีหยดน้ำระหว่างการเก็บ ควรผึ่งลมให้แห้งก่อนเก็บ
4. หลีกเลี่ยงการกระเด็นผ้าเย็นไปโดนยาฆ่าแมลงหรือสารเคมีอื่นๆ และหลีกเลี่ยงการสัมผัสระหว่างผ้าเย็นกับยาฆ่าแมลง ปุ๋ย ฯลฯ
5. หลังจากการรีไซเคิลผ้าทนความเย็นแล้ว ควรหลีกเลี่ยงการโดนแสงแดด และหลีกเลี่ยงการโดนน้ำและแสง
6. หลังจากรีไซเคิลผ้าทนความเย็นแล้ว ให้เก็บไว้ในที่เย็นและมืด